ขายฝากที่ดิน ต่างจากขาย ฝากขายยังไง มาดูกันค่ะ

ยุคสมัยข้าวยาก หมากแพงเช่นนี้ การแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้กลายเป็นเงินก้อน เงินทุน กำลังเป็นช่องทางยอดนิยมของการหาทางออก เหตุนี้รูปแบบของการ ขายฝากที่ดิน จึงเกิดขึ้น และถือว่าเป็นช่วงเวลาของการทำความเข้าใจขั้นตอนการซื้อขายที่ดิน รวมไปถึงความแตกต่างจากฝากขาย หรือขาย และข้อดีของการขายฝากนั้นเป็นอย่างไร

ขายฝากที่ดิน เป็นรูปแบบการทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินประเภทหนึ่ง โดยกรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันทีเมื่อมีการจดทะเบียนนิติกรรมขายฝาก ณ สำนักงานที่ดิน ระหว่างนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ขายฝากสามารถนำเงินมาไถ่ถอนที่ดิน ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ส่วนผู้รับซื้อฝากจะได้รับประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี และจะได้รับเงินต้นคืนทันทีเมื่อมีการไถ่ถอน ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่ผู้รับซื้อฝากจะให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยถูก หรือให้วงเงินสูง เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการพิจารณาตัดสินใจแก่ผู้ขายฝาก

ขายฝากที่ดิน อีกหนึ่งช่องทางตัวช่วยแปลงสินทรัพย์ให้เป็นเงินทุน ที่สามารถทำได้หากโฉนดที่ดินผืนนั้นไม่ติดภาระกับธนาคารหรือบุคคล และข้อตกลงขายฝากที่ดินกับบริษัทฯ กำหนดให้ระยะเวลาไถ่คืนที่ดินนั้น โดยทั่วไปแล้วไม่เกิน 10 ปี หรืออาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝาก แต่กรณีการขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัยในกรณีที่ผู้ขายฝากเป็นบุคคลธรรมดา ต้องไม่น้อยกว่า 1 ปี ขึ้นไป

ข้อดีของการขายฝากที่ดินคืออะไร
การ ขายฝากที่ดิน จะทำสัญญาระหว่างผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝาก ณ สำนักงานที่ดิน จึงทำให้มีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจว่าจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
– อนุมัติเร็วกว่าการขอสินเชื่อกับธนาคาร
– ได้วงเงินดีกว่าการจำนอง
– การทำสัญญาฝากขายที่ดิน ไม่จำเป็นต้องเช็คประวัติแบล็คลิส เครดิตทางการเงิน หรือ Statement
– หากครบกำหนดแล้วผู้ขายฝากยังไม่สามารถไถ่คืนที่ดินได้ ผู้ขายฝากอาจทำสัญญาขยายระยะเวลาไถ่ออกไป ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี
– ผู้ขายฝากยังคงได้ครอบครองที่ดิน และใช้ประโยชน์ต่อไปได้จนกว่าพ้นกำหนดไถ่ เว้นแต่คู่สัญญาจะตกลงกันเป็นประการอื่น